วันพุธที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2558

ดีเจเพชรจ้า ซื้อของมา 8.8ล้านอย่างไรก็ดีด้วยกันขายบ้านได้ตั้ง16ล้าน

เล่า!บ้านดีเจเพชรจ้า ซื้อมา8.8ล้านแต่กับค่าขายบ้านได้ตั้ง16ล้านทำยังไงไปดู


การที่เราให้ความหมายคำว่า “บ้าน” ของแต่ละคนนั้นล้วนสะท้อนเรื่องราว ความผูกพัน การให้น้ำหนักกับสิ่งที่คนผู้นั้นใส่ใจ บางคนชี้แจงว่าบ้านเป็นจุดศูนย์รวมของคนที่ตนเองรัก แต่แม้บางคนนั้น บ้านคือสถานที่ที่ปลอดภัย เพราะ “ดีเจเพชรจ้า วิเชียร กุศลมโนมัย” หรือไม่ฉายาดีเจหนุ่มปากจัด บ้านของเขาเปรียบเสมือนรังนอน แหล่งให้พลังงานชาร์ตแบต พร้อมทั้งขุมสมบัติ นั่นคงเป็นเพราะตลอดระยะเวลาในวงการบันเทิงกว่า 10 ปี  เขามุ่งมั่นทำงานอย่างหนักเพื่อสร้าง พร้อมกับมีในสิ่งที่ต้องการด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเอง


“บ้าน” หลังแรกของผม
ตราบ 8- 9 ปีที่แล้ว หลังจากทำงานในวงการบันเทิงแค่ไม่กี่ปี ดีเจเพชรจ้า หนุ่มมาดกวน จัดรายการวิทยุแบบโผงผางมีสไตล์เฉพาะตัว ผมตัดสินใจซื้อบ้านหลังแรกเป็นของตนเองในมูลค่า 10 ล้านบาท เพราะว่าเเล่าลือกจากทำเลที่เหมาะสม

“ตอนนั้นก็ดูอยู่หลายที่ แต่ที่เลือเลื่องกที่นี่ก็เพราะว่าเป็นโครงการเดียวที่มีบ้านหลังมุมสุดเหโจษอยู่ เพราะว่าผมหิวได้บ้านหลังมุมสุดท้าย ที่มีพื้นที่เป็นส่วนตัว ตอนนั้นผมซื้อมาสนนราคาคะเน 8.8 ล้าน แต่ช่วงนี้สนนราคาขายบ้านน่าจักคร่าวๆ 16 ล้านบาท”

เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 76 ตารางเมตร ด้านหน้าบ้านเปิดโล่งไม่มีรั้วกั้น ไม่มีประตู ด้วยกันจากการที่เเอิกเกริกกบ้านหลังสุดท้ายในซอยนี้ทำให้เขาได้พื้นที่มากกว่าบ้านหลังอื่น ดังนั้นตั้งแต่หน้าบ้านจึงมีการตกแต่งที่สะท้อนตัวตนของเขาอย่างชัดเจน


ทุบ เปลี่ยน จนพอใจ
ตั้งแต่พักอาศัยมาตลอดระยะเวลา 8 ถึง 9 ปี ดีเจเพชรจ้าปรับเปลี่ยนการตกแต่งบ้านของตนเองมาแล้วหลายครั้ง ส่วนหนึ่งเนื่องจากนิสัยขี้เบื่อของตนเอง ซึ่งในปัจจุบันถือเป็นการรีโนเวทที่ค่อนข้างลงตัว พร้อมกับคิดว่าจักไม่มีการเปลี่ยนแปลงอีกแล้ว จนกว่าจะแต่งงานพร้อมด้วยสร้างเรือนหอ

“ผมเปลี่ยนการตกแต่งมาแล้วประมาณการ 4 รอบแล้วครับ ตอนแรกตกแต่งด้วยสีดำในสไตล์วินเทจ ใกล้เคียงกับปราสาทในเทพนิยาย เน้นสีเทา สีดำเพราะว่าความชอบส่วนตัว แต่พอหลายๆ คนมาเห็น ก็ทักว่ามันค่อนข้างจะน่ากลัว ผมก็เลยเปลี่ยนการตกแต่งใหม่ไปเรื่อยๆ จนล่าสุดมาลงตัวที่การตกแต่งแบบนี้”

นอกจากด้านล่างจะเปลี่ยนโทนสีของห้องเพื่อความรู้สึกร่วมของผู้ที่แวะมาที่บ้านแล้ว ชั้นสองของบ้าน หนุ่มขี้เบื่อคนนี้ยังจักทุบรวมพื้นที่จาก 3 ห้อง กลายเป็นพื้นที่เดียวกันทั้งหมด ถึงแม้บ้านจักดูไม่เป็นสัดส่วนสักเท่าไร แต่เขาก็ไม่ได้ให้ความสำคัญ เพราะเขาถือว่าชั้นสองของบ้านเป็นพื้นที่ส่วนตัวเฉพาะด้วยว่าตนเอง


2 สไตล์ใน “บ้าน” หลังเดียว
บริเวณชั้นล่างของตัวบ้านแบ่งเป็นพื้นที่ Living เน้นความสว่าง โล่ง โปร่ง สบาย ด้วยเหตุที่มักจะมีแขกกับเพื่อนๆ มาเยี่ยมเยียนบ้านอยู่บ่อยครั้ง เพื่อให้รู้สึกได้ถึงความสบายจึงเลือกใช้โทนสีอ่อนในการตกแต่ง ใกล้กับผนังห้องมีเตาผิงที่ใช้เพราะว่าวางตกแต่งกรอบรูป เทียนหอมพร้อมกับของประดับชิ้นเล็กชิ้นน้อย

ชุดโซฟาสไตล์หลุยส์สีหวานวางไว้คู่เข้ากับพรมสีขาวบนพื้นห้อง บนเพดานเพิ่มความหรูหราด้วยแชนเดอเลียช่อกะทัดรัด ที่แม้จะดูขัดกับบุคลิกเจ้าของบ้าน แต่ก็เพิ่มความหรูหราให้ห้องรับแขกมีจุดนำสายตาที่น่าสนใจยิ่งขึ้น 
แต่สิ่งที่สะท้อนตัวตนของดีเจเพชรจ้าได้เป็นอย่างดีภายในห้องนี้ก็คือ Island หรือไม่ก็เคาน์เตอร์หินอ่อนที่เชื่อมต่อกับห้องครัว เนื่องแต่คาสโนวาสิ้นลายคนนี้ที่รักการปาร์ตี้มักจะใช้มุมนี้เพื่อชงเครื่องดื่มต้อนรับเพื่อนๆ เวลามีปาร์ตี้ที่บ้าน

“บ้านผมจัดปาร์ตี้บ่อย ถ้าในบ้านมุมนี้ก็สำคัญมาก เพราะว่าใช้เพราะด้วยชงเครื่องดื่ม พร้อมทั้งต้อนรับเพื่อนๆ ของผม ก็เพราะว่าเวลาผมจัดปาร์ตี้แต่ละครั้งนั้นจักมีคนมากระบุงโกยมาก”

แต่ครั้งขึ้นไปบริเวณชั้น 2 ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเขา บรรยากาศกลับเปลี่ยนไปคนละขั้วอย่างสิ้นเชิงเพราะใช้สีดำในการเพ้นท์พื้นที่ทั้งหมด จากบันไดทางขึ้นด้านซ้ายมือเป็นมุมนั่งเล่นที่ตกแต่งด้วยชุดรับแขกหนังสีดำ ซึ่งกลมกลืนกับโต๊ะตัวกลาง หมอนอิง แชนเดอเลีย  พร้อมกับของตกแต่งชิ้นอื่นๆ ที่คลุมโทนสีเดียวกันทั้งหมด

ด้านขวามือนอกจากตู้กระจกที่มีโมเดลซุปเปอร์ฮีโร่หนึ่งในของสะสมตั้งโชว์อยู่แล้ว ยังมีเคาน์เตอร์ชงเครื่องดื่มที่หากมีโอกาสไปเยี่ยมชมในช่วงย่ำค่ำ จะทำให้รู้สึกเหมือนเข้าไปเที่ยวในผับหรือว่าบาร์ที่มีสไตล์เฉพาะตัว
ถัดจากโซนนั่งเล่นก็จักเป็นส่วนของห้องนอนที่ยังคงใช้เฟอร์นิเจอร์สีดำทุกชิ้น นอกจากนั้นพื้นที่ในบริเวณนี้ยังเชื่อมต่อกับโต๊ะเครื่องแป้ง ห้องเก็บเสื้อผ้าด้วยกัน ซึ่งเต็มไปด้วยรองเท้าไนกี้ ดั้งค์ อีกหนึ่งของสะสมชิ้นโปรด ซึ่งเดี๋ยวนี้มีราวๆ 200 คู่


มุมชิลเพราะว่า “ปาร์ตี้ เลิฟเวอร์”
นอกจากที่บ้านจะตกแต่งอย่างมีสไตล์ของตัวเองแล้ว อีกมุมหนึ่งที่เชื่อว่าหลายๆ คนต้องอิจฉา พร้อมทั้งคิดว่าถ้าที่บ้านของตัวเองมีพื้นที่ก็น่าจักเพิ่มเติมมุมๆ นี้เข้าไป นั่นคืออ่างน้ำจากุซชี่เอาท์ดอร์ กับดาดฟ้าเนื่องด้วยปาร์ตี้ชมแสงดาวที่ตั้งอยู่นอกตัวบ้าน

“ตอนแรกมีแต่อ่างอาบน้ำตั้งอยู่นอกบ้าน ผมก็แช่ตัวบ่อยๆ เวลาอยู่บ้าน หรือว่ากลับมาจากการทำงานนอกบ้าน นอนอ่านหนังสือชิลๆ จิบโน่นนี่ไปแช่ตัวไป แต่ตอนหลังพอมีเพื่อนมาปาร์ตี้ที่บ้านมากมายๆ ก็เลยต่อเติมเป็นชั้นลอย ด้านบนทำเป็นดาดฟ้าที่ขึ้นไปก็นั่งชิลได้ด้วย มุมนี้จึงมีพร้อมหมด ทั้งเตาบาร์บีคิว อ่างแช่ตัว เครื่องเสียง พร้อมปาร์ตี้สุดๆ”

บ้านหลังแรกของหนุ่มคาสโนวามาดกวนคนนี้จึงเป็นสถานที่ที่รวมทุกสิ่งทุกอย่างจากน้ำพักน้ำแรงของเขา พร้อมด้วยจากนั้นในอนาคตเขามีแผนถึงการสร้างเรือนหอรออยู่แล้วข้างหน้า จึงน่าสนใจมากว่าเรือนหอในอนาคตของเขาจักเป็นเช่นไร แต่เท่าที่ทราบสวยงาม อลังการสมกับเป็นสวรรค์ย่อยๆ ของชายหนุ่มผู้นี้อย่างแน่นอน



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น